วันอาทิตย์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2555
พระธาตุ
นายร้อย
ข้อมูลช่วยในการตัดสินใจ ที่จะเลือกเป็นนักเรียนนายร้อย
| ||
เกียรติยศ เกียรติศักดิ์ของนักเรียนนายร้อย มิได้อยู่ที่การแต่งเครื่องแบบโก้หรู มิได้อยู่ที่การศึกษาเพื่อได้เป็นเจ้าคนนายคน
มิได้อยู่ที่การ ได้มีโอกาสเล่าเรียนด้วยทุนของทางราชการหรือความภูมิใจที่ผ่านการคัดเลือกมาจากคนเป็นหมื่น ๆ คนเท่านั้น เกียรติยศ
เกียรติศักดิ์ โดยแท้จริงของนักเรียนนายร้อยคือ
| ||
- เป็นผู้มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
| ||
- เป็นผู้ตั้งใจอุทิศตนอย่างแน่วแน่ ที่จะเสียสละโอกาสและความสุขสบาย เพื่อรับใช้ชาติด้วยการเป็นทหาร
| ||
- เป็นผู้มีความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่อ ความยากลำบากในการรับการฝึก การหัด
และการฝึกฝนทั้งปวง เพื่อความเข้มแข็ง ทั้งร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งสติสัมปชัญญะเพื่อการเป็นผู้นำทหาร ที่มีความภาคภูมิใจ
และได้รับความเชื่อถือ ศรัทธาจากผู้ใต้บังคับบัญชาและคนทั่วไป
| ||
- เป็นผู้ที่พร้อมในการในการพัฒนาตนเองไปสู่ความมีวินัย จริยธรรม คุณธรรม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน และเป็นตัวอย่าง
ในการประพฤติตนเป็นคนดีและเสียสละ เพื่อชาติตลอดทั้งชีวิต
| ||
- เป็นผู้ใฝ่รู้ ใฝ่เรียน รู้รอบ ตามทันการเปลี่ยนแปลงของสภาวะแวดล้อม ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี
| ||
- เมื่อจบการศึกษาแล้วเป็นนายทหารหลักของกองทัพบก ซึ่งเป็นแบบฉบับของนายทหารผู้มีคุณสมบัติสมบูรณ์ตามที่กองทัพ
และประเทศชาติพึงปรารถนา
| ||
สาระสำคัญของระเบียบกองทัพบก ว่าด้วยโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่เกี่ยวกับนักเรียนนายร้อย
| ||
ข้อ ๗ การรับบุคคลเข้าเป็นนักเรียนนายร้อย
| ||
๗.๑ บุคคลเข้าเป็นนักเรียนนายร้อย จะต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุดของโรงเรียนเตรียมทหาร ได้คะแนนตามที่ทางราชการกำหนด
| ||
ข้อ ๘ สิทธิและหน้าที่ของนักเรียนนายร้อย
| ||
๘.๑ นักเรียนนายร้อยเป็นนักเรียนทหาร ตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยโรงเรียนทหาร พ.ศ. ๒๕๔๓ และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม
| ||
๘.๒ บุคคลที่สมัครเข้าเป็นนักเรียนนายร้อย ให้ถือว่าเป็นผู้ที่ร้องขอรับราชการ ทหารกองประจำการ ตามกฎกระทรวงออกตามคาม
ในกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร
| ||
๘.๓ นักเรียนนายร้อยจะต้องปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ คำสั่ง แบบธรรมเนียมของ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า กับจะต้องเคารพ
และปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่ง แบบธรรมเนียมของทหาร ทั้งยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายอีกด้วย
| ||
๘.๔ นักเรียนนายร้อยจะต้องรับการฝึกและอบรม ตามระเบียบและหลักสูตร ที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัด
| ||
๘.๕ นักเรียนนายร้อยมีสิทธิได้รับ เงินเดือน การเลี้ยงดู การรับสิ่งอุปกรณ์ต่าง ๆ การรักษาพยาบาล รวมทั้งสิทธิอื่น ๆ
ตามที่ทางราชการกำหนดตลอดเวลาที่เป็นนักเรียนนายร้อย
| ||
คอร์สเรียน
คอร์สเรียน
คอร์สติวเข้มเข้านายร้อยตำรวจหญิง ตุลา 55
ติวเข้มทุกวัน ทุกวิชาที่ใช้สอบ 11-31 ตุลาคม 2555
สมัครเรียน ทีี่นี่
ภาพบรรยากาศ และสถานที่เรียนเข้าค่ายติ วนายร้อยตำรวจหญิง คอร์สเมษายน 55 ที่ผ่านมา
ติวเข้มทุกวัน ทุกวิชาที่ใช้สอบ 11-31 ตุลาคม 2555
สมัครเรียน ทีี่นี่
สำหรับคอร์สนี้เป็นการติวเนื้ อหา เพื่มความแน่นให้กับผู้เรียน ตะลุยเนื้อหาทุกวิชาพร้อมทั้ งตะลุยข้อสอบที่ใช้สอบจริงเข้ านายร้อยตำรวจหญิง โดยคอร์สนี้ผู้เรียนจะได้รั บการถ่ายทอดเนื้อหาวิ ชาจากอาจารย์ผู้สอนที่มี ประสบการณ์ในการออกข้อสอบเป็ นอย่างดี อาจารย์ผู้สอนมีเทคนิคสูตรลัด สอนสนุก เหมาะสำหรับนักเรียนที่ต้ องการเตรียมตัวสอบเพื่อเป็ นนายร้อยตำรวจหญิงอย่างแท้จริง
สิ่งที่น้องๆ จะได้รับจากการเรียน ในคอร์สนี้
-ติวเข้มตะลุยเนื้อหาและตะลุยข้ อสอบที่ใช้สอบจริงทุกวิชา ระดับเนื้อหาไม่เกิน ม.6
- ดูแล ให้คำปรึกษา ตลอด 24 ชั่วโมงโดยพี่ๆเตรียมทหารและพี่ นักเรียนนายร้อยอย่างใกล้ชิด
- สถานที่เรียน ที่พัก สะดวก สบาย พร้อมออกกำลังกายในเวลาพักช่ วงเย็น
- ติวหลังเลิกเรียนในเวลาเย็นถึ งค่ำโดยพี่ๆ และคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ
- มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภั ยภายในสถานที่พักตลอด 24 ชั่วโมง
- บริการอาหารครบ 3 มื้อ
- แจกเอกสารการเรียน เพื่อติวเข้มเข้าโรงเรียนนายร้ อยตำรวจ ครบทุกวิชา พร้อมแนวข้อสอบที่ใช้สอบได้จริง
- แจกชุดพลศึกษาของโรงเรียน
- ตรวจสุขภาพทั่วไป และตรวจสุขภาพฟัน ฟรี
ภาพบรรยากาศ และสถานที่เรียนเข้าค่ายติ
โรงเรียนนายเรืออากาศ
โรงเรียนนายเรืออากาศ | |
---|---|
Royal Thai Air Force Academy | |
ประเภท | โรงเรียนทหาร-ตำรวจ |
ที่ตั้ง | 171/1 ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220 |
เนื้อหา[ซ่อน] |
[แก้] ประวัติ
ก่อนปี พ.ศ. 2493 กองทัพอากาศรับบุคลากรที่ผลิตจากสถาบันการศึกษาอื่นและมหาวิทยาลัยเข้ามาทำงานในกองทัพอากาศ ต่อมาภารกิจและกิจการของกองทัพอากาศมีมากขึ้น ประกอบกับยังไม่มีสถาบันที่จะผลิตนายทหารสัญญาบัตรของตนเอง นอกจากนี้ ทางกองทัพอากาศต้องการนายทหารที่มีความรู้เฉพาะสาขาวิชามากกว่าด้านความรู้ทั่วไป จึงได้เตรียมการเริ่มตั้ง "โรงเรียนนายเรืออากาศ" เพื่อผลิตนายทหารหลักให้กับกองทัพอากาศ แต่ด้วยงบประมาณที่จำกัดประกอบกับปัญหาบางประการจึง ทำให้การก่อตั้งโรงเรียนนายเรืออากาศต้องล่าช้าออกไปนานนับทศวรรษใน พ.ศ. 2493 กรมยุทธศึกษาทหารอากาศ ได้เสนอเสนาธิการทหารอากาศว่า นายทหารของกองทัพอากาศนั้น ควรที่จะได้รับการศึกษา และการฝึกฝนตลอดระยะเวลาที่รับราชการอยู่ในกองทัพอากาศ และในปีต่อมา เสนาธิการทหารอากาศได้มีคำสั่งให้กรมยุทธศึกษาทหารอากาศเตรียมโครงการเพื่อเปิดโรงเรียนนายเรืออากาศโดยละเอียด
โครงการจัดตั้งโรงเรียนนายเรืออากาศได้รับนโยบายและความเห็นชอบจากผู้บัญชาการทหารอากาศในขณะนั้น จึงเสนอโครงการเพื่อขออนุมัติต่อคณะรัฐบาลคณะรัฐมนตรีได้ประชุมลงมติอนุมัติ ใน ปีพ.ศ. 2495
[แก้] สัญลักษณ์ประจำสถาบัน
ลักษณะของสัญลักษณ์ประจำสถาบัน เป็นรูปอาร์มคาดแถบธงไตรรงค์ในแนวเฉียง ประดับปีกนกกางทั้ง 2 ข้าง สีทอง ภายใต้อุณาโลม สีเงิน และพระมหามงกุฎรัศมี สีทอง (ปีกนักบินชั้นที่ 1) เหนือดาว 5 แฉก สีเงิน รองรับด้วยช่อชัยพฤกษ์ สีทอง ทั้งหมดบรรจุอยู่ในวงกลม สีฟ้า ใต้วงกลมมีแถบปลายแฉกสะบัดลงทั้ง 2 ข้าง สีเหลือง กลางแถบมีคำว่า "โรงเรียนนายเรืออากาศ" สีน้ำเงินดำ- ปีกนักบินชั้นที่ 1 เป็นสัญลักษณ์ของนักบินทหารอากาศ แสดงถึงนักเรียนนายเรืออากาศซึ่งสำเร็จออกเป็นนายทหารสัญญาบัตร และจะเป็นนักบินของทหารอากาศต่อไป
- ดาว 5 แฉกสีเงิน แสดงถึง ความมีเกียรติ นักเรียนนายเรืออากาศทุกคนมุ่งมั่นปรารถนาที่จะรับราชการให้มีความก้าวหน้าสูงถึงขั้นนายพลอากาศ
- ช่อชัยพฤกษ์ใบสีทอง แสดงถึง ความสำเร็จด้านการศึกษาของนักเรียนนายเรืออากาศ เพื่อที่ออกไปรับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตรต่อไป
- วงกลมสีฟ้า และแถบปลายแฉกสะบัดสีเหลือง โดยสีฟ้า-เหลือง เป็นสีประจำโรงเรียนนายเรืออากาศ
[แก้] โครงสร้างหน่วยงาน
- กองบัญชาการ
- กองการศึกษา
- กรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์
- จัดกำลังพลออกเป็น 4 กองพัน 1 ฝูงบิน และกองพัฒนาภาวะผู้นำ
- กองบริการ
- กองวิชาทหาร
- กองพลศึกษา
- กองเทคโนโลยีและสารสนเทศ
- กองสถิติและประเมินผล
- กองส่งเสริมและพัฒนางานวิจัย
- แผนกการเงิน
หลักสูตร
หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มี 5 สาขาวิชา
|
|
- สาขาคอมพิวเตอร์
- สาขาวัสดุศาสตร์*ตั้งแต่ปีการศึกษา 2550 เปลี่ยนเป็น สาขาวัสดุศาสตร์ทางการทหารและอากาศยาน
ประวัติโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
ประวัติโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
พัฒนาการอันยาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ
โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นนามที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชพัฒนาการอันยาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ขนานนามโรงเรียนนายร้อยทหารบก ในกระทรวงกลาโหม
เป็น "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า" เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 องค์พระผู้พระราชทานกำเนิดสถาบันการศึกษาแห่งนี้
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2411 ขณะมีพระชนมายุ 15 พรรษา
พระองค์ทรงสนพระทัยในกิจการทหารทุกประเภท ประกอบกับในครั้งนั้นมีบุตรราชตระกูลและข้าราชการที่มีอายุอยู่ในวัยเยาว์
เข้าไปอยู่ในพระบรมมหาราชวังชั้นในหลายคนด้วยกัน
พ.ศ.2411 จัดตั้ง "ทหารมหาดเล็กไล่กา" ในชั้นแรกมีจำนวนประมาณ 12 คน ทำหน้าที่ไล่กาที่บินมารบกวนข้าวสุกในเวลาทรงบาตร และได้จัดตั้งบอร์ดีการ์ดขึ้น 24 คน โดยทรงเลือกจากทหารมหาดเล็กข้าหลวงเดิม และเรียกกันว่า "ทหาร 2 โหล" พ.ศ.2413 จัดตั้ง"กองทหารมหาดเล็ก" โดยคัดเลือกบุคคลจากมหาดเล็กหลวงได้จำนวน 72 คน และได้รวมทหาร 2 โหล เข้าสมทบอยู่ในพวกใหม่นี้ด้วย | ||||
พ.ศ.2414 เมื่อทรงจัดการทหารมหาดเล็กพอมีหลักฐานเรียบร้อยขึ้นแล้วจึงโปรดเกล้าฯ ให้ ขนานนามกองทหารมหาดเล็กนี้ว่า "กรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์" พ.ศ.2415 จัดตั้งโรงเรียนขึ้นในกรมทหารมหาดเล็ก เพื่อสอนวิชาภาษาอังกฤษและภาษาไทย เรียกสถานศึกษาว่า "คะเด็ตทหารมหาดเล็ก" ส่วนนักเรียนเรียกว่า "คะเด็ต" ใช้เวลาศึกษา 2 ปี นักเรียนเหล่านี้นอนตามระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม | ||||
พ.ศ.2424 โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งโรงเรียนสำหรับทหารหน้าขึ้น จึงกำเนิด "คะเด็ตทหารหน้า" ขึ้นอีกแห่งหนึ่ง ที่วังสราญรมย์ มีนักเรียนจำนวน 40 คน เรียกนักเรียน เหล่านี้ว่า "คะเด็ตทหารหน้า" 8 เม.ย. 2430 ให้รวมกรมทหารทั้ง 9 กรมได้แก่ กรมทหารบก 7 กรม ทหารเรือ 2 กรม เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เรียกว่า "กรมยุทธนาธิการ" | ||||
5 ส.ค. 2430 โปรดเกล้าฯให้รวมคะเด็ตทหารมหาดเล็ก คะเด็ตทหารหน้า นักเรียนแผนที่และส่วนที่เป็นทหารสก็อต (ทหารมหาดเล็กรุ่นเยาว์สำหรับ แห่โสกันต์) เข้าด้วยกันและใช้ชื่อรวมว่า "คะเด็ตสกูล" (ภาษาอังกฤษ) โดยใช้พื้นที่บริเวณหลังพระราชวังสราญรมย์ และพระราชทานกำเนิดเป็น "โรงเรียนทหารสราญรมย์" เนื่องในวันสำคัญนี้จึงถือเป็นวันพระราชทานกำเนิด แหล่งผลิตนายทหารหลักให้แก่กองทัพบก 6 ต.ค. 2440 ได้รวมกองโรงเรียนนายสิบ เข้ามาสมทบอยู่ในโรงเรียนไทหารสราญรมย์ และเรียกชื่อใหม่ว่า "โรงเรียนสอนวิชาทหารบก" | ||||
พ.ศ.2441 จัดตั้งกรมเสนาธิการ ขึ้นตรงกับกรมยุทธนาธิการ และต่อมาได้จัดตั้งกรมยุทธศึกษา ขึ้นตรงกับกรมเสนาธิการ โดยให้มีหน้าที่อำนวยการสอนแต่อย่างเดียว และตราข้อบังคับใหม่เรียกว่า "ข้อบังคับโรงเรียนทหารบก" และได้เปลี่ยนนามโรงเรียนเป็น "โรงเรียนทหารบก" เมื่อ 27 พ.ย. 2441 พ.ศ.2445 เนื่องจากโรงเรียนทหารบกที่ตั้งอยู่ริมวังสราญรมย์ ซึ่งให้การศึกษาในระดับประถมศึกษา มีจำนวนนักเรียนมากขึ้นจนสถานที่เดิมแคบลง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายโรงเรียนมาตั้งที่ถนนราชดำเนินนอก มีพื้นที่ 30 ไร่เศษและขยายการศึกษา เพิ่มเป็นระดับมัธยมศึกษา | ||||
11 พ.ย. 2451 โรงเรียนนายร้อยทหารบก ได้รับพระราชทานธงชัยเฉลิมพลประจำกอง โรงเรียนนายร้อยทหารบกชั้นมัธยมและโรงเรียนนายร้อยทหารบกชั้นประถม แสดงว่านักเรียนนายร้อยไม่เพียงเรียนได้ดีเท่านั้น ยังเป็นนักเรียนที่สามารถออกศึกสงคราม เช่นเดียวกับทหารบกทั้งปวง และเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย | ||||
26 ธ.ค. 2452 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเปิดโรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม อย่างเป็นทางการ | ||||
พ.ศ.2468 | ||||
อันเป็นสมัยที่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก ทำให้ต้องจัดการย้ายโรงเรียนนายร้อยทหารบกชั้นประถม จากบริเวณหลังพระราชวังสราญรมย์ เข้ามารวมกันที่โรงเรียนนายร้อยชั้นมัธยม ถนนราชดำเนินนอก เรียกว่า "โรงเรียนนายร้อยทหารบก" และให้ยกเลิก ชั้นประถม และมัธยม | ||||
26 มี.ค. 2471 | ||||
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานกระบี่และรางวัล แก่นักเรียนนายร้อยทหารบกที่สำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุดทุกคนเป็นครั้งแรก ตลอดจนถึงรัชกาลปัจจุบัน มีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จพระราชทานกระบี่เป็นประจำทุกปี | ||||
พ.ศ.2477 | ||||
กรมยุทธศึกษาได้มีการปรับปรุงและจัดระเบียบใหม่ ทั้งบุคคลและหน่วยงาน จึงได้มีการจัดตั้ง "โรงเรียนเท็ฆนิคทหารบก" มีหน้าที่ฝึกอบรมนักเรียนที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตร เหล่าทหารปืนใหญ่ ทหารช่าง ทหารสื่อสาร ทหารช่างแสง และช่างอากาศ สำหรับโรงเรียนนายร้อยทหารบก มีหน้าที่ฝึกอบรมนักเรียนที่จะเป็นนายทหารสัญญาบัตร เหล่าทหารราบ ทหารม้า และนายตำรวจ | ||||
3 พ.ค.2489 ยุบโรงเรียนเท็ฆนิคทหารบก และแผนกตำรวจในกรมยุทธศึกษาทหารบก และเปลี่ยนชื่อกรมยุทธศึกษาทหารบก เป็น "โรงเรียนนายร้อยทหารบก" และให้ขึ้นตรงต่อกองทัพบก | ||||
1 ม.ค. 2491 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต ขนานนามโรงเรียนนายร้อยทหารบก ว่า "โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า" เขียนเป็นอักษรโรมันว่า "Chulachomklao Royal Military Academy" เพื่อเป็นอนุสรณ์และเฉลิมพระเกียรติ ในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเป็นผู้ก่อกำเนิด และได้ดำเนินกิจการเป็นประโยชน์ แก่ประเทศชาติมาด้วยดี | ||||
ธ.ค. 2523 | ||||
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชดำริให้โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ย้ายมาตั้งอยู่ที่บริเวณเขาชะโงก อำเภอเมือง ต่อกับอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก พื้นที่ประมาณ 21,000 ไร่เศษ และได้เริ่มโครงการก่อสร้าง | ||||
29 ก.ค. 2529 | ||||
เคลื่อนย้ายนักเรียนนายร้อย และข้าราชการ ออกจากที่ตั้งเดิม เข้าสู่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ณ ที่ตั้งแห่งใหม่ จังหวัดนครนายก |
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ | |
---|---|
Royal Police Cadet Academy | |
ประเภท | โรงเรียนทหาร-ตำรวจ |
ที่ตั้ง | 90 หมู่ที่ 7 ตำบลสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม |
เว็บไซต์ | http://www.rpca.ac.th/ |
เนื้อหา[ซ่อน] |
[แก้] ประวัติ
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรขึ้นในประเทศไทย อันเป็นรากฐานเริ่มต้นของโรงเรียนนายร้อยตำรวจยุคปัจจุบัน โดยกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ขณะดำรงพระยศเป็นพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงดำรงราชานุภาพเสนาบดีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือที่ 67/719 ลงวันที่ 19 เมษายน ร.ศ.121 (พ.ศ. 2445) กราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรขึ้นแล้ว แต่ติดขัดเรื่องที่ในการตั้งโรงเรียน จึงขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ย้ายที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ไปตั้งที่ ต.ห้วยจรเข้ จ.นครปฐม ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานพระบรมราชานุญาต และได้มีพระราชหัตถเลขาถึงกรมหลวงดำรงราชานุภาพ 2 ฉบับ ฉบับแรกหนังสือที่ 59/234 ลงวันที่ 20 เมษายน ร.ศ.121 ฉบับที่ 2 หนังสือที่ 131/361 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม ร.ศ.121 โปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ย้ายที่ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตามความกราบบังคมทูลขอของกรมหลวงดำรงราชานุภาพ อันเป็นหลักฐานที่แสดงว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธรขึ้นสำหรับประวัติสถานที่ตั้งของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ตั้งแต่เมื่อแรกเริ่มตั้งขึ้นในประเทศไทย จนกระทั่งมีที่ตั้งล่าสุดที่อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ได้มีการย้ายสถานที่ตั้งตามลำดับดังนี้
- สมัยที่ 1 โรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธร นครราชสีมา พ.ศ. 2444 - พ.ศ. 2447 มีนายร้อยโท ม.ร.ว.แดง (หม่อมแดง) ผู้บังคับการกองตำรวจภูธรเขต 3 นครราชสีมา ทำหน้าที่เป็นผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นคนแรก
- สมัยที่ 2 โรงเรียนนายร้อยตำรวจภูธร ห้วยจรเข้ จังหวัดนครปฐม (ครั้งที่ 1) พ.ศ. 2447 - พ.ศ. 2458
- สมัยที่ 3 โรงเรียนนายหมวด คลองไผ่สิงโต กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2458 - พ.ศ. 2464
- สมัยที่ 4 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ห้วยจรเข้ จังหวัดนครปฐม (ครั้งที่ 2) พ.ศ. 2464 - พ.ศ. 2476
- สมัยที่ 5 โรงเรียนนายร้อยทหารบก (ยศ.) กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2476 - พ.ศ. 2489 ทั้งนี้ ได้มีการเริ่มนับรุ่นของนักเรียนนายร้อยตำรวจ ครั้งแรกเป็น นรต.รุ่นที่ 1 เมื่อปี พ.ศ.2480 ในขณะที่ศึกษาร่วมกับนักเรียนนายร้อยทหารบก
- สมัยที่ 6 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ปทุมวัน กรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2489 - พ.ศ. 2498
- สมัยที่ 7 โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2498 - ปัจจุบัน
[แก้] ธงชัยประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้รับพระราชทานธงชัยประจำหน่วยตำรวจจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับหน่วยอื่นของตำรวจอีก 5 หน่วย เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2495 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินในการพระราชพิธีตรึงหมุดธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจด้วยพระองค์เอง ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2495 ผืนธงมีลักษณะเช่นเดียวกับธงชาติ ภายในยอดธงบรรจุเส้นพระเกศาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และบรรจุพระพุทธรูปองค์เล็กเรียกว่า "พระยอดธง" เอาไว้ ธงชัยจึงถือเป็นตัวแทนของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเหล่าข้าราชการตำรวจ นักเรียนนายร้อยตำรวจ และปวงชนชาวไทยให้ความเคารพธงชัยประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจนี้ มีลักษณะและการได้มาเช่นเดียวกันกับธงชัยเฉลิมพลของทหารทุกประการ โดยสำนักราชเลขาธิการได้บันทึกหลักฐานเกี่ยวกับ "ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ" นี้ไว้ ตามหลักฐานต่างๆปรากฏชื่อธงดังกล่าว ได้แก่ "ธงชัยเฉลิมพลประจำกองตำรวจ" "ธงชัยประจำกอง" "ธงชัย" "ธงประจำกอง" ซึ่งก็คือธงเดียวกัน ในวันที่ 13 ตุลาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันตำรวจ คณะนายตำรวจปกครองและนักเรียนนายร้อยตำรวจ จะทำการอัญเชิญธงชัยประจำโรงเรียนนายร้อยตำรวจนี้ไปทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนาม
[แก้] โครงสร้างส่วนราชการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
- สำนักเลขานุการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
- กองบังคับการปกครอง
- ฝ่ายอำนวยการ
- ฝ่ายปกครอง 1 (ปกครองนักเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 1 - 4)
- ฝ่ายปกครอง 2 (ปกครองนักเรียนอบรม)
- ฝ่ายปกครอง 3 (ปกครองนักเรียนเตรียมทหาร โดยปฏิบัติหน้าที่ ณ โรงเรียนเตรียมทหาร อ.บ้านนา จ.นครนายก)
- ฝ่ายกิจกรรมนักเรียน
- กองบังคับการอำนวยการ
- ฝ่ายอำนวยการ 1
- ฝ่ายอำนวยการ 2
- ฝ่ายอำนวยการ 3
- ฝ่ายอำนวยการ 4
- ศูนย์บริการทางการศึกษา (เทียบกองบังคับการ)
- ศูนย์ฝึกตำรวจ (เทียบกองบังคับการ)
- งานอำนวยการ
- กลุ่มงานยุทธวิธีตำรวจ
- กลุ่มงานพละศึกษา
- กลุ่มงานแบบธรรมเนียมตำรวจ
- คณะตำรวจศาสตร์
- สำนักงานคณบดี
- กลุ่มงานคณาจารย์
- คณะสังคมศาสตร์
- สำนักงานคณบดี
- กลุ่มงานคณาจารย์
- คณะนิติวิทยาศาสตร์
- สำนักงานคณบดี
- กลุ่มงานคณาจารย์
- สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและวิทยบริการ
- ฝ่ายระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย
[แก้] หลักสูตร
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ มีภารกิจหลักในการให้การศึกษาอบรมทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และการอบรมหล่อหลอมคุณลักษณะความเป็นนายตำรวจสัญญาบัตรให้แก่ผู้ที่เข้ารับการศึกษาอบรมในโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งหลักสูตรหลักและเป็นหลักสูตรประจำของโรงเรียนนายร้อยตำรวจคือ "หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจ"หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นหลักสูตรปริญญาตรี 4 ปี ทางด้านรัฐประศาสนศาสตร์ (รป.บ.(ตร.)) มุ่งเน้นการศึกษาอบรมให้นักเรียนนายร้อยตำรวจมีวิชาความรู้และการอบรมหล่อมหลอมคุณลักษณะอันดีใน 3 ด้าน คือ
1.มีความรู้ทางวิชาการพื้นฐานของระดับปริญญาตรี
2.มีความรู้ทางวิชาชีพ ที่เป็นความรู้เฉพาะในด้านตำรวจ
3.มีบุคลิกลักษณะและมีภาวะความเป็นผู้นำตำรวจ มีคุณลักษณะทางร่างกายและจิตใจที่เหมาะสมจะเป็นนายตำรวจสัญญาบัตร และมีคุณธรรมจริยธรรม
สภาการศึกษาโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้มีการปรับปรุงพัฒนาหลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจให้มีความทันสมัย มีความเหมาะสมกับสภาพความเปลี่ยนแปลงทางสังคมมาโดยตลอด
นอกจากนั้น โรงเรียนนายร้อยตำรวจยังได้มีความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในการเปิดหลักสูตรร่วมกัน เช่น ร่วมมือกับ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ในการเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขานิติวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
[แก้] อุดมคติของตำรวจ
-
-
-
-
-
- เคารพเอื้อเฟื้อต่อหน้าที่
- กรุณาปราณีต่อประชาชน
- อดทนต่อความเจ็บใจ
- ไม่หวั่นไหวต่อความยากลำบาก
- ไม่มักมากในลาภผล
- มุ่งบำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน
- ดำรงตนในยุติธรรม
- กระทำการด้วยปัญญา
- รักษาความไม่ประมาทเสมอชีวิต
-
-
-
-
[แก้] เพลงประจำสถาบัน
- มาร์ช นรต. (เพลงมาร์ชประจำสถาบัน)
- มาร์ชพิทักษ์สันติราษฎร์ (เพลงประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
- สามพราน
- สนสามพราน
- ขวัญดาว
- ลาก่อนสามพราน
- ลาแล้วสามพราน
- สามพรานแดนดาว
[แก้] นักเรียนนายร้อยตำรวจ
[แก้] คำขวัญประจำชั้นปี
นรต.ทั้ง 4 ชั้นปีจะมีคำขวัญของชั้นปีตนเองที่จะบ่งบอกถึงสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบ รวมถึงภารกิจที่ได้รับหมอบหมาย- ชั้นปีที่ 1 "ขันตีอุตสาหะ"
- หมายถึง นรต. ชั้นปีที่ 1 ต้องมีความอดทนอดกลั้นและความวิริยะอุตสาหะเป็นพิเศษ เพื่อที่จะฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆได้ไปจนตลอดรอดฝั่ง
- ชั้นปีที่ 2 "วิจัยกรณี"
- หมายถึง นรต. ชั้นปีที่ 2 จะต้องเป็นผู้ที่มีวุฒิภาวะในการวินิจฉัย พิจารณาในสิ่งต่างๆ รู้จักการวางตนต่อผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา
- ชั้นปีที่ 3 "รักษ์วินัย"
- หมายถึง นรต. ชั้นปีที่ 3 จะต้องเป็นผู้ที่มีระเบียบวินัยอย่างดีเยี่ยม รักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามไว้ เพื่อเตรียมพร้อมสู่การก้าวขึ้นเป็นผู้ถ่ายทอด ปลูกฝังความเป็น นรต.ให้แก่รุ่นต่อๆไป
- ชั้นปีที่ 4 "เกียรติศักดิ์"
- หมายถึง นรต.ชั้นปีที่ 4 จะต้องเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบและวินัยในตนเอง สมกับเป็นผู้ที่มีเกียรติ และเตรียมพร้อมสู่ความเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร
[แก้] สีประจำชั้นปี
สีประจำชั้นปีนี้จะถูกใช้เป็นสีประจำกองร้อย(อาคารนอน)และเป็นสีหมวก ซึ่งการเลื่อนชั้นการศึกษาของ นรต.นั้นจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้มี พิธีประดับเลขชั้นปีและเปลี่ยนหมวกสี แล้ว ซึ่งจะกระทำในวันรุ่งขึ้นหลังจากมี พิธีวิ่งรับหมวก (Long March) ในวันเริ่มต้นเปิดภาคการศึกษา[แก้] เครื่องแบบนักเรียนนายร้อยตำรวจ
เครื่องแบบ และชุดแต่งกายของนักเรียนนายร้อยตำรวจ มีทั้งสิ้นจำนวน 16 แบบ ได้แก่- เครื่องแบบเต็มยศ
- เครื่องแบบครึ่งยศ
- เครื่องแบบสโมสรปิดอก
- เครื่องแบบปกติขาว
- เครื่องแบบปกติเสื้อนอกคอแบะกากี
- เครื่องแบบปกติเสื้อเชิ้ตคอพับกากี (มีผ้าผูกคอ)
- เครื่องแบบฝึก
- เครื่องแบบสนามชนิดไม่ปล่อยเอว(ฟาติก)
- เครื่องแบบสนามชนิดปล่อยเอว(เวสต์)
- ชุดศึกษาดูงาน (หมวกหนีบ)
- ชุดศึกษา (หมวกแก๊ปทรงตึง)
- ชุดฝึกยิงปืน
- ชุดลำลอง
- ชุดกีฬาขาสั้น
- ชุดกีฬาขายาว
- ชุดวอร์ม
- หมวกปีกทรงแข็งสีกากี มียอดโลหะสีเงิน (หมวกยอด)
- หมวกทรงหม้อตาลสีกากี มีสายรัดคางดิ้นเงิน
- หมวกทรงหม้อตาลสีขาว สายรัดคางดิ้นเงิน
- หมวกทรงหม้อตาลสีกากี สายรัดคางหนังสีดำ
- หมวกหนีบสีกากี
- หมวกแก๊ปทรงตึง(สีประจำกองร้อย)
- หมวกแก๊ปทรงอ่อนสีดำ
- หมวกทรงอ่อนสักหลาดสีดำ (เบเร่ต์)
- รองเท้าหุ้มข้อหนังสีดำ (ฮาล์ฟ)
- รองเท้าหุ้มส้นหนังสีดำ (คัทชู)
- รองเท้าสูงครึ่งน่องหนังสีดำ (คอมแบทฝึก)
- รองเท้ากีฬาผ้าใบหุ้มส้นสีขาว
- หน้าหมวกตราแผ่นดิน
- อาร์มคอรูปตราสัญลักษณ์โรงเรียนนายร้อยตำรวจสีเงิน
- อินทธนูแข็งสีแดงเลือดหมูประดับสายพาดดิ้นเงิน
- เครื่องหมาย "ร"
- เครื่องหมายเลขไทยตามชั้นปี
- ป้ายชื่อโลหะ
- แพรแถบข้าราชการตำรวจ
- กระบี่สั้นนักเรียนนายร้อยตำรวจพร้อมสายโยงกระบี่
- กระบี่ยาวนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรชาย พร้อมสายโยงกระบี่และขอเกี่ยวกระบี่สามชาย (ใช้ในการฝึกและการสวนสนาม)
- เครื่องหมายหลักสูตรต่อต้านปราบปรามการก่อความไม่สงบ (ตปส.)
- เครื่องหมายหลักสูตรการโดดร่ม จากกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ ตชด.(ค่ายนเรศวร)ปีกร่มชนิดทำด้วยดิ้น
- เครื่องหมายความสามารถการยิงปืนพกในระบบ เอ็น.อาร์.เอ (N.R.A.)
- เครื่องหมายความสามารถการยิงปืนยาว
- เครื่องหมายความสามารถอื่นๆ
- อาวุธปืนสั้น (ใช้ในการฝึก)
- อาวุธปืนเล็กยาว ปลย.11,HK (ใช้ในการฝึกและการสวนสนาม)
- ถุงมือ (ใช้ในการฝึกหัดปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่จราจร)
- วิทยุสื่อสาร
- นกหวีด
- กุญแจมือ
[แก้] หลักสูตรต่างๆของนักเรียนนายร้อยตำรวจ
นอกจากนักเรียนนายร้อยตำรวจจะต้องศึกษาภาควิชาการ และการอบรมหล่อหลอมด้านความคิดจิตวิญญาณแล้ว นรต.ทั้งหมดจะต้องเข้ารับการฝึกหลักสูตรต่างๆดังต่อไปนี้- หลักสูตรการต่อต้านปราบปรามการก่อความไม่สงบ(ตปส.)สำหรับ นรต.ชั้นปีที่ 1 ฝึกในช่วงปิดภาคการศึกษาภาคปลาย ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม โดยอยู่ในการควบคุมการฝึกโดยกองบังคับการฝึกพิเศษ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
- หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจฝึกรับใช้ประชาชนในชนบท สำหรับ นรต.ชั้นปีที่ 2 หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า "หลักสูตรพ่อแม่สมมุติ" ฝึกในช่วงปิดภาคการศึกษาภาคต้น ประมาณเดือนกันยายน
- หลักสูตรการโดดร่ม สำหรับ นรต.ชั้นปีที่ 2 ฝึกในช่วงปิดภาคการศึกษาภาคปลาย ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-เมษายน โดยอยู่ในการควบคุมการฝึกโดยกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตำรวจพลร่ม ค่ายนเรศวร) หลักสูตรนี้ไม่เป็นหลักสูตรบังคับ หากไม่เข้ารับการฝึก จะต้องฝึกหลักสูตรอื่นๆทดแทน
- หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจสัมผัสปัญหาชุมชน สำหรับนักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีที่ 3 ฝึกในช่วงปิดภาคการศึกษาภาคต้น ประมาณเดือนกันยายน
- หลักสูตรนักเรียนนายร้อยตำรวจฝึกปฏิบัติงานในสถานีตำรวจ สำหรับนักเรียนนายร้อยตำรวจชั้นปีที่ 3 โดยให้ฝึกงานสายป้องกันปราบปราม,สืบสวน,จราจร,อำนวยการ ฝึกในช่วงปิดภาคการศึกษาภาคปลาย ระหว่างเดือน กุมภาพันธ์-มีนาคม โดยส่งตัวให้ไปฝึกในสถานีตำรวจสังกัดกองบัญชาการตำรวจภูธรต่างๆ
- หลักสูตรฝึกหัดงานสอบสวน สำหรับ นรต.ชั้นปีที่ 4 ฝึกหลังจากเสร็จสิ้นการศึกษาภาคต้น ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน โดยส่งตัวให้ฝึกในสถานีตำรวจนครบาลต่างๆ
- หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพสืบสวนสอบสวน สำหรับ นรต.ชั้นปีที่ 4 ต่อเนื่องจนถึงประดับยศเป็นว่าที่ ร.ต.ต.โดยส่งตัว นรต.ชั้นปีที่ 4 ที่สำเร็จการศึกษาแล้วให้รับการฝึก ณ สถาบันส่งสริมงานสอบสวน ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ประมาณเดือนพฤศจิกายน-กรกฎาคม ใช้ระยะเวลาฝึกเป็นเวลา 8 เดือน ก่อนจะแต่งตั้งไปดำรงตำแหน่งต่างๆในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
[แก้] นักเรียนนายร้อยตำรวจหญิง
ตั้งแต่ปีการศึกษา 2552 (ตรงกับนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 66)เป็นต้นมา โรงเรียนนายร้อยตำรวจได้เปิดรับสมัครนักเรียนนายร้อยตำรวจหญิงเป็นรุ่นแรก จำนวน 70 นาย โดยคัดเลือกจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 60 นาย และข้าราชการตำรวจชั้นประทวนเพศหญิงอายุไม่เกิน 25 ปี อีก 10 นาย ผลปรากฏว่ามีผู้สมัครสอบคัดเลือกถึงกว่า 17,000 คน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)